การเดินทางครั้งนี้เราต้องขึ้นรถที่จะไปจังหวัดจันทรบุรี แต่อย่าลืมบอกคนขับรถนะว่าเราต้องลงรถตรงแยกประแส เจ้าของโฮมสเตย์(พี่อ้วน) นัดเจอเราสองคนที่นี่เพื่อรับไปที่โฮมสเตย์ พี่อ้วนใจดีมาก พูดจาไพเราะ ชวนฟัง พี่เขาอธิบายให้เรา 2 คนฟังทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่รวมถึงสถานที่เที่ยวต่างๆ พี่แกบอกว่าโฮมสเตย์เขาเปิดมา 5-6 ปีแล้ว
อ่อๆลืมบอกไปจากแยกประแส มาจนถึงโฮมสเตย์ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร เราสองคนเดินทางมาถึงโฮมสเตย์เวลาประมาณ 13:00 น. พี่อ้วนจอดรถไว้ข้างนอกแล้วพาเราสองคนเดินลัดเลาะตามชุมชนเขามายังที่พัก หน้าที่พักมีศาลเจ้าด้วยนะ
ผมสืบทราบมาว่าที่โฮมสเตย์ที่นี่เดิมเป็นที่จอดของเรือประมง ตามกันต่อครับ พอถึงที่พักพี่อ้วนก็ให้เราสองคนเลือกห้องว่าอยากพักห้องไหน ประมาณว่าใครมาก่อนเลือกก่อน พี่เขามีที่พักแบบ 2 คนและแบบหมูคณะตั้งแต่ 6-50 คนครับ
โฮมสเตย์และชวนบ้านที่นี่เขารวมตัวกันส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ดีมากเลยครับ ตามวิถีชาวบ้าน ชุมชนชาวบ้านปากน้ำประแสเป็นชุมชนเก่าแก่ บ้านช่องถือว่ายังคงสภาพดังเดิมอยู่มากครับ
""เวลาประมาณ 14:00 น. รถสามล้อของชุมชนก็มารับเราไปเที่ยวบริเวณรอบๆหมู่บ้านรวมถึงสถานที่ต่างๆที่ใกล้เคียง คนขับรถและไกด์ท้องถิ่นของผมวันนี้คือ "พี่มล" เดี๋ยวพี่เขาจะพาเราแวะกิน แวะเที่ยวกันครับ
พร้อมเดินทางไปกับเราหรือยังครับ ล้อหมุนลุย อยากกิน อยากเที่ยว อยากแวะไหนบอกพี่มลได้เลยครับ พี่เขาขับพาลัดเลาะไปในชุมชนและพาแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนเลยเป็นจุดแรกเพราะเราสองคนเดินทางมาตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยจึงต้องเติมพลังกันสักหน่อยจะได้มีเรี่ยวแรงเดินทางกัน เราสองคนใช้เวลาสักพักหนึ่งพอเสร็จสิ้นก็ออกเดินทางกันต่อ พี่มลพามาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่หมู่บ้านและเราแทบจะเจอเกิบทุกที่ถ้าเราได้ไปเที่ยวทางทะเลทางภาคตะวันออก
สักการะศาล "สเด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร" ซึ่งเป็นบิดาของการเรือไทย ขอพรเอากฤษ์เอาชัยกันแล้วก็อิกเดินทางกันต่อเลยครับ พี่มลพาเราสองคนแวะเข้าไปในวัดเพื่อเข้าไปดูต้นตะเคียนยักษ์ 2 ต้นอายุประมาณ 500 ปีและ 300 ปีตามลำดับครับ ตั้งแต่เกิดมาผมก็เพิ่งเคยเห็นต้นตะเคียนที่ยังยืนต้นอยู่ พอออกจากวัดเราสองคนพร้อมด้วยพี่มลก็มุ่งหน้าสู่แหลมแม่พิมพ์ซึ่งเป็นจุดชมวิว แต่ระหว่างทางเราวิวถ่ายรูปกันที่ "สะพานประแสสิน" เป็นสะพานข้ามแม่น้ำประแสร์
วิวปากแม่น้ำประแสร์ไหลลงสู่ทะเลทางด้านตะวันออกของประเทศ อยากบอกว่าคนจอดรถถ่ายรูปบนสะพานเยอะเหมือนกันนะเนี่ย วิวสวย ลมพัดเย็นชื่นใจ พอถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็เดินทางกันต่อเลยครับ เราสองคนมุ่งหน้าสู่แหลมแม่พิมพ์และจะไปดูเรือรบประแสกันสักหน่อย พอมาถึงพี่มลก็จอดสามล้อให้เราเดินเที่ยวชมตามสบาย เราสองคนก็ไม่ลืมที่เก็บภาพถ่ายที่เราคิดว่าสวยมาฝากกัน
ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าหาดบริเวณนี้ไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่เพราะมันเป็นปากแม่น้ำที่ไหลลงสู่ทะเล แต่เราก็จะเห็นผู้คนออกมาทำประมงชายฝั่ง เช่น ตกปลา หาหอย เหวี่ยงแห ฯลฯ แต่ดูแล้วก็เพลินตาดีครับ ได้เห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่นโดยส่วนตัวแล้วผมชอบมาก อ่อๆลืมบอกไปว่าเกาะ 3 เกาะที่เห็นอยู่ด้านหลังนั่นก็คือ เกาะมันใน มันกลาง และมันนอกและพรุ่งนี้เราจะได้ไปที่นั่นแล้ว ยกเว้น "เกาะมันนอก" ณ จุด จุดนี้เราหัดไปให้ความสนใจเรือใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆเรานี่
และนี่คือ "เรือรบประแส" เป็นเรือรบขนาดไหนผมไม่ทราบแต่สำหรับผมมันใหญ่มาก เป็นเรือรบที่ถูกปลดประจำการมาแล้วหลายสิบปี แต่มีการเขาขึ้นมาตั้งโชว์ไว้ที่ปากน้ำประแสร์เมื่อปี 2546 เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน เป็นการให้ความรู้ต่อคนในชุมชนอีกด้วย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวให้กับคนในชุมชนนี้อีกด้วย แต่ใกล้ๆเรือรบนี้ยังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ "ป่าชายเลน"
เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติทางป่าชายเลนและระบบนิเวศชายฝั่งด้วย ต้นโกงกางสีเขียวสนใส ได้พบเจอสัตว์นานาชนิดไม่ว่าจะเป็น ปู หอย ปลาตีน นก ปลาเล็กปลาน้อย
ป่าชายเลนแห่งนี้มีสะพานไม้ให้เราเดินชมธรรมชาติยาวตลอดแนวป่าโกงกางเลยครับอ่อๆผมลืมบอกไปครับว่าเส้นทางนี้สามารถเดินทะลุไปจนถึงป่าชายเลนที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยครับชื่อว่า "โปรงทอง" แต่ระยะทางก็เหนื่อยเอาการครับประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่ง "โปรงทอง" ถือว่าเป็นไฮไลค์ของที่นี่เหมือนกันแต่เป็นที่น่าเสียดายครับผมไม่ได้ไป พี่มลแจ้งว่าสะพานที่ทำไว้ให้เดินชมมันเกิดพังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม จนไม่สมารถเข้าไปดูได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา พอออกจากป่าโกงกางเราก็เดินทางกลับโฮมสเตย์ เพื่อพักผ่อนหลังจากเดินทางและเที่ยวเกิบตลอดทั้งวัน ขอบอกเลยว่าเหนื่อและเพลียมาก
ข้าวเหนียวมะม่วงนี่เอง หอม หวาน มัน อร่อยมากๆ แต่ข้าวเหนียวมะม่วงไม่ได้รวมอยู่ในเมนูของโฮมสเตย์นะ เราซื้อกันมาเอง นี่พูดเลยอร่อยมากๆ หลังจากินข้าวเสร็จ ของคาว ของหวาน ผลไม้ เรียบร้อยก็นั่งพักกันตามอัธยาศัยครับ เราก็มีดื่มเบียร์กันบ้าง กลุ่มอื่นๆเขาก็ดื่มกันคุยกัน แล้วยังคาราโอเกะให้ร้องด้วยนะครับจะบอกให้ การดื่มบางทีก็สร้างมิตรภาพได้เหมือนกันเหมือนกับทริปนี้ของผมซึ่งพวกพี่ๆเขาก็มาชวนนั่งกิน ชวนคุย ชวนร้องเพลง สนุกสนานดีครับ และยังทำให้การเที่ยวครั้งนี้ดูมีสีสันขึ้นมาทันตา""เวลาประมาณ 17:00 น. เราสองคนก็อยากออกสำรวจชุมชนประแสร์ โดยการปั่นจักรยานเที่ยวชมบริเวณในตัวตลาดของชุมชน เอา ปั่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปั่นไปชมวิถีชาวบ้านไป ดูเงียบสงบ เรียบง่าย แต่มีสไตย์ ของชาวบ้านผสมอยู่ รวมกลับนั่งคุย ทักทายกัน ดูเป็นภาพชินตาที่เราเคยสัมผัสก่อนเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ คิดแล้วอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนี้จัง เห็นชาวบ้านบอกว่าเขาจะมี "ถนนคนเดิน" ด้วยมีพูดถึงก็ดีนะเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนนอกเหนือจากการทำประมงแต่โดยส่วนตัวแล้วกลัวเพราะว่า เมื่อมีการเจริญเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวแล้วมันจะทำลายวิถีชาวบ้าน ท่องเที่ยวแล้วมันต้องรักษาอย่าพัฒนาจนลืมวิถีดั้งเดิม ดราม่านิดหนึ่ง พอปั่นจักรยานมาได้สักพักเราสองคนก็หิวและเหนื่อยจึงแวะไปถ่ายรูปตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะตกก่อนจะเดินทางกลับโฮมสเตย์
""เวลา 18:00 น. เวลาที่ผมรอคอยและเวลาแห่งความสุขของเราก็มาถึง เวลาอาหารเย็นมาถึงแล้ว นี่พูดเลย ฟินสุดๆ พี่อ้วนและแม่ครัวจัดเตรียมโต๊ะให้แต่ละกลุ่มนั่ง จาน ถ้วย ชาม ช้อน น้ำ พร้อม สำหรับเมนูอาหารของเราในวันนี้ก็คือ ทอดมันกะทิ ปูนึ่ง กุ้งนึ่ง ปลาทอด(ผมไม่รู้ว่าปลาอะไร) ปลาหมึกทอดกระเทียม หอยแครงลวก ปลาหมึกต้ม และตบท้ายด้วยผลไม้รวม รายการอาหารข้างต้นนี้สำหรับเราสองคนนะ อิอิ(สามารถขอเพิ่มได้นะครับหากอาหารไม่หมดแม่ครัวเขาจะเพิ่มให้) ผมบอกตรงๆอร่อยมาก และอิ่มชนิดที่ว่าอึดอัดตัวเองมาก อิ่มจนทรมาน มาดูอาหารกัน มีรูปน้อยนะเนื่องจากอดใจไม่ไหว
ดูเอาเองแล้วกันนะครับว่าฟินขนาดไหน กับข้าวอร่อยเกิบทุกอย่าง ต้องยกนิ้วให้แม่ครัวและต้องขอบคุณทุกคนที่โฮมสเตย์มากๆเลยครับที่ทำอาหารให้เรากินอิ่มถึงขนาดจุกกันไปเลย ฮ่าๆ แต่ยังไม่หมดนะ ในเมื่อมีของคาวลงคอต่อด้วยของหวาน ผลไม้อีกจานหมดลงอย่างว่องไว อิ่มแล้วน่าไม่อายบ่นมาได้ว่าจุก ประหนึ่งเหมือนว่าเสียดสีตัวเอง อีกหนึ่งเมนูปิดท้ายของผมก็คือ
""เวลาประมาณ 22:00 น. ผมก็ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวนอน(ห้องน้ำรวมต้องเข้าคิว) เนื่องจากพรุ่งนี้เราจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปตลาดเช้าของที่นี่ มาดามผมอยากใส่บาตรไหว้พระทำบุญ ฝันดีครับ 😘
**************************************************
""วันที่ 26 เมษายน 2558 เวลาประมาณ 06:00 น. เราสองคนตื่นแต่จริงๆแล้วผมตื่นตั้งแต่ตี 5 แล้วเพราะได้ยินเสียงแม่ครัวทำกับข้าว เราตื่นล้างหน้าแปรงฟัน เพื่อเตรียมตัวไปตลาดเช้า พร้อมแล้วก็คว้าจักรยานปั่นไปตลาดกันเลย
ตลาดเช้าที่นี่เป็นตลาดเล็ก มีของขายมากพอสมควร มีทั้งอาหารคาว หวาน ของสด สภากาแฟ ผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของกัน
เราสองคนเดินดู และเดินหาซื้อของเพื่อจะไปใส่บาตรพระในตอนเช้านี้ ที่ซื้อมาก็มี กับข้าว 1อย่าง ของหวาน ข้าวเปล่า น้ำดื่ม เมื่อข้าวของครบก็รอพระมา
ตักบาตรรับพรจากพระเสร็จเราก็เดินหาซื้อขนมเพื่อเตรียมไปกินบนเรือตอนที่ออกไปดำน้ำ พอเสร็จสิ้นภารกิจที่ตลาดเช้าเราสองคนก็กลับไปที่โฮมสเตย์เพื่อเตรียมตัวทานอาหารเช้าที่โฮมสเตย์เตรียมไว้ให้ อาหารเช้านี้ก็มี กาแฟ โอวัลติน ปลาท่องโก๋ และข้าวต้มทะเล
ต้องขอบอกเลยว่าข้าวต้มอร่อยดีครับ สดชื่นได้ซดอะไรร้อนๆตอนเช้าเนี่ย หลังจากเวลาอาหารเช้าววันนี้คือการออกเดินทางไปยังเกาะมันในและมันกลางเพื่อไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื่น วันนี้ได้ขึ้นเรือใหญ่เพราะวันนี้มีคนทั้งหมด 28 คนไม่รวมกัปตันและลูกเรือ
""เสร็จสิ้นอาหารเช้าก็จะเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนออกเดินทาง หมายกำหนดการเดินเรือเวลา 09:00 น. แต่เนื่องด้วยแม่ครัวเตรียมอาหารกล่องให้เราไม่ทันเลยออกช้ากล่าวเดิมประมาณ 40 นาที
""เวลาประมาณ 09:40 น. พวกเราออกเดินทางจากท่าเรือโฮมสเตย์ คนขับเรื่องแจ้งว่าใช้เวลาประมาณ 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมงในการเดินทางครั้งนี้ เมื่อพร้อมกันแล้วก็ลุย
ถอนสมอ ติดเครื่อง ออกเดินทาง เรือออกจากท่า มิตรภาพเริ่มก่อตัวขึ้นครับ ผมกับแฟนก็นั่งชิวๆตามสไตย์
เราสองคนนั่งอยู่บนชั้น 2 ของเรือมีทั้งหมด 11 คน แยกออกเป็น ผมกับแฟน 2 คน อีก 2 กลุ่มมี 3 คนและ 6 คนตามลำดับ บนเรือมีน้ำดื่ม น้ำอัดลม น้ำแข็งให้บริการ ส่วนใครจะเอาเหล้าเบียร์ไปก็ต้องบริการตนเองนะครับ นอกจากจะมีเครื่องดื่มบริการแล้วยังมี คาราโอเกะ ให้เราได้แหกปากร้องอีกด้วยชนิดว่าว่าปลายังต้องว่ายน้ำหนี คนบนเรือก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันร้องอย่างสนุกสนาน และทำให้ผมได้รู้จักกับพี่คนหนึ่งแกเป็นทอม พี่เขาเป็นคนเฮฮา ร้องเพลงนั่งดื่มของแกอยู่คนเดียว สักพักแกคงเหงาเลยเอาแก้วมาชงเหล้าให้ผม สงสัยแกคงกลัวเมาเพราะเหล้า 1 ขวดแกคงกินไม่หมด ฮ่าๆ
แกบอกว่าต้องดื่ม ต้องร้องเพลง เดี๋ยวเมาคลื่น ดีครับมันคือความสุขและการสร้างมิตรภาพ เรือแล่นไปเรื่อยๆ พวกเราก็เพลิดเพลินกับการชมผืนทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหู ลูกตา จะสะดุดตาบ้างก็ตอนมองไปเจอเกาะนี่แหละ
""เวลา 11:30 น. เราเดินทางมาถึงจุดแรกนั่นก็คือ เกาะมันใน พอเรือจอดปุ๊บเราก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าถิ่นเลยครับ ซึ่งมันเป็นอะไรที่สวยงามมากๆเลยครับ
ปลาที่นี่สวยมาก มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยราดคิดมาก่อนว่าเราจะเจออะไรแบบนี้ เที่ยวทะเลมาก็ไม่ใช่น้อยไม่เคยเห็นเลย เรือจอดเทียบท่าแล้ว ลูกเรือที่ดูแลเราจะพาเราไปเดินชมเกาะกัน ต้องบอกก่อนเลยว่า เกาะมันใน นั้นเป็นเกาะที่เอาไว้เพื่อเพาะพันธุ์เต่าทะเลและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติครับ ยินดีต้อนรับสู่ "เกาะมันใน"
ระยะทางจากท่าเรือเดินไปยังศูนย์เพาะพันธุ์เต่าทะเลประมาณ 1 กิโลเมตร เดินชิวๆเพลินๆ ร้อนแดดนิดหน่อยก็ถือว่าสบายๆครับ
วันที่เราไปนั้นมีหลายคณเดินทางมายังเกาะที่เห็นมีทีมถ่ายภาพกลุ่มใหญ่ และทีมศึกษาธรรมชาติทางทะเล เดินมาสักระยะเราก็เดินทางมาถึง "ศูนย์เพาะพันธุ์เต่าทะเล"
ที่นี่มีทั้ง พ่อ-แม่พันธุ์ และลูกเต่าทะเล มีหลายบ่อมากๆ
เห็นแล้วอดเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันเพาะพันธุ์เต่าทะเล เพื่อให้ธรรมชาตินี้ยังคงอยู่ พอเที่ยวชมบ่อเลี้ยงเต่าใจครบเราก็เดินกลับมายังท่าเรือ ระหว่างทางเจอมุมสวยๆ เราก็ไม่พลาดที่เก็บภาพสวยๆมาฝากครับ
สวยพอใช่ได้มั้ยครับ โดนแอบถ่ายด้วย อิอิ เดินกลับๆ เสียเวลามามากแล้ว ต้องไปดำน้ำกันต่อเร็วๆ
อ่อๆลืมบอกไปครับ ผมอ่ะเป็นคนรักธรรมชาตินะแต่อดไม่ได้ที่จะแอบเก็บทรายตามชายหาดมาใส่ขวดมาเก็บสะสมไว้ เก็บทุกที่ที่เขาให้นะครับ ที่ไหนเขาไม่ให้ก็ไม่เอา
เดินกลับมาถึงเรือ พี่ๆที่เรือเขาก็เตรียมอาหารกลางวันไว้ให้พวกเราเรียบร้อย ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว อาหารมื้อนี้มี ข้าวกล่องเป็น ข้าวกระเพราทะเล ผัดซีอิ้วทะเล อีกอย่างคล้ายทอดมันเอาไปพันไม้แล้วปิ้ง ของหวานมีผลไม้ บอกตรงๆนะครับว่าอาหารที่เตรียมไว้ไม่ขี้เหร่เลย
ทานอาหารกันสักพัก ก็เตรียมตัวออกเดินทางไปยังเกาะมันกลางเพื่อไปดำน้ำซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ ช่วงเวลาที่เตรียมพร้อมบางคนก็กระโดดน้ำเล่นคลายร้อนกันอย่างสนุก
""เวลาประมาณ 12:30 น. เรือออกจากท่ามุ่งหน้าสู่เกาะมันกลางเพื่อจะไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื่น มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก วันนี้ที่รอคอย ผมรักการดำน้ำ
อุปกรณ์พร้อม เราก็เตรียมลุยกันได้เลย
ปะการังที่นี่ ถ้าเทียบกับเกาะกูดที่ผมไปมาเมื่อเดือนมีนาคมแล้ว ต้องยอมรับว่าเกาะกูดสวยกว่า แต่ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ครับ เพราะน้ำตื่นมาก คนว่ายน้ำไม่เป็นแค่ใส่ชูชีพก็ลอยแล้ว ยอมรับเลยว่าที่นี่ "หอยมือเสือ" เยอะมาก
แต่ละตัวใหญ่ๆทั้งนั้นเลยครับ เดี๋ยวเรามาดูมุมอื่นๆของโลกใต้น้ำกันบ้างครับ
มันเป็นช่วงเวลาที่ผมกับแฟนมีความสุขมากเลยครับ มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากเลยครับ อ่อๆลืมไปว่าเรามีอะไรมาอวดด้วยครับ ฝูงปลาเป็นร้อยๆพันๆตัวเลยครับ
ปลาสวยๆจากเกาะมันในครับ ผมยอมรับเลยนะครับว่า มันฟินมากๆและไม่อยากกลับไปเลยอยากจะอยู่ต่ออีกสักคืน แต่ถ้าอยู่คงเหงาเพราะพี่อ้วนบอกว่าวันนี้ไม่มีแขกว่าพักถ้าอยู่ก็อยู่กันสองคน ฮือๆ
""เวลาประมาณ 14:15 น. สิ้นสุดเวลาที่เราได้ดำน้ำและจะต้องเดินทางกลับไปยังโฮมสเตย์และเตรียมตัวเดินทางกลับมาสู่โลกแห่งความวุ่นวายอีกครั้ง
พอกลับมาถึงโฮมสเตย์ เราก็อาบน้ำ เก็บของ ต้องบอกเลยว่า ต้องเข้าคิวอาบน้ำ เลยทำให้เราออกจากโฮมสเตย์ช้านักท่องเที่ยวทยอยออกจากที่พักเรื่อยๆ
""เวลาประมาณ 15:40 น. เราสองคนออกจากโฮมสเตย์ พร้อมกล่าวคำอำลา แม่ครัว และทุกคนที่นั่น รวมถึงมิตรภาพที่เพิ่งบังเกิดขึ้น ขอบใจเจ้ทอม ที่ดื่มกิน สร้างความเฮฮา และทำให้ทริปนี้ของเราสองคนมีความสุขมากๆครับ
""เราสองคนตกลงกันว่าเราจะเที่ยวทุกเดือนเพราะเรารักการเดินทางแต่นี่เป็นเพียงรีวิวที่สองของเราเท่านั้น""
""สิ่งที่น่ารู้ในการไปเที่ยวทริปนี้ที่โฮมสเตย์เพื่อเป็นแนวทางครับ
-ค่าที่พัก + อาหาร 3 มื้อ + กิจกรรม + รถรับส่งมายังโฮมสเตย์ 2,200/คน
-เข้าที่พักแล้วมีสามล้อบริการให้เที่ยวฟรี สินใจน้ำใจแล้วแต่เรา
-อาหารขึ้นอยู่กับวัตถุดิบท้องถิ่น
-อย่าลืมผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ
-อย่าตั้งความหวังไว้มากเพราะโฮมสเตย์ ไม่ใช่โรงแรม หรือ รีสอร์ท
-ทำความเข้าใจการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ให้มาก
-แนะนำให้ไปวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือวันที่มีคนไปเที่ยวเยอะ เพราะไม่งั้นคุณเหงาแน่ๆ
-หากคนน้อยเรือจะไม่ออกพาไปดำน้ำ แต่ถ้าออกคุณต้องจ่ายเงินเพิ่ม 2,000 บาท
-ก่อนไปโทรจองก่อนดีที่สุด
-อย่าทำลายธรรมชาติโดยการทิ้งขยะ สิ่งที่เก็บมาคือความทรงจำและภาพถ่าย
ปล. ชุมชนปากน้ำประแสร์เป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำประแสร์ บ้านเก่าแต่ละหลังอายุเกิบร้อยปี คนในชุมชนผ่านการอบรมเป็นมัคคุเทศน์ท้องถิ่น และมีสามล้อที่อดีตเอาไว้รับส่งชาวประมงมาเป็นรถนำเที่ยว
**************************************************
"ภาพถ่ายส่งท้าย"
ที่ผมเขียนรีวิวนี่ขึ้นมาเพื่ออยากให้คนไทยได้รู้ว่าเมืองไทยมีที่สวยๆให้เราเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย ช่วยกันเที่ยว ช่วยกันรักษา มิได้มีความตั้งใจที่จะโอ้อวด และผมหวังว่ารีวิวนี้ของเราจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่รักการเดินทางเหมือนเรา "เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน"
"สวัสดี"
*******😍😗😜************😆😘☺️*******
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น