"วันที่ 22 สิงหาคม 2560 เวลา 04:30 น." นาฬิกาปลุกที่ผมตั้งไว้ก็ทำงานส่งเสียงเตือนเรียกให้ผมตื่นเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง พอลุกจากที่นอนก็ทำการล้างหน้า แปรงฟัน หลังจากนั้นก็เตรียมสิ่งของที่จำเป็นในการเดินทางซึ่งทริปนี้แทบจะไม่อะไรเลยนอกจาก กาย ใจ และเงินครับ
"เวลา 05:03 น." เมื่อได้เวลานัดหมายน้องผมก็ขับรถเข้ามารับที่บ้าน พอผมได้ยินเสียงรถก็รีบออกมาจากบ้านและเตรียมตัวเดินทางกันในทันที
รถสตาร์ทเครื่องรอแล้วออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ ตามเราไปเที่ยวด้วยกันครับ
เราขับรถออกจากบ้านเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านพุน้ำร้อน อำเภอด่านช้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง" จุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้ ระยะทางโดยประมาณ 60 กิโลเมตรครับ ขับรถไปนั่งฟังเพลง นั่งคุยกันไปเรื่อยๆเพื่อแก้อาการง่วงนอน ขับมาไม่นานเราก็เดินทางมาได้ครึ่งทางกันแล้วครับ
พอมาถึงตรงนี้ก็อีกไม่ไกลสักเท่าไหร่แล้วครับแต่ถ้าหากใครไม่เคยมาก็ให้ขับตามป้ายอำเภอด่านช้างไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจรในตัวอำเภอด่านช้างให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นให้ขับรถตรงไปเรื่อยๆประมาณ 3-4 กิโลเมตรพอถึงทางแยกให้เลี้ยวขวาไปทางหนองปรือครับ ขณะที่เราขับรถไปก็สอดส่องสายตามองหาป้ายบอกทางไปด้วย แต่จุดสังเกตง่ายนิดเดียวคือ เมื่อถึงวัดพุน้ำร้อนแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าไป
ก็จะเจอป้ายตามรูปแบบนี้เลยครับ และระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกทางไปที่อ่างเก็บน้ำเป็นระยะๆ
ป้ายเล็กป้ายใหญ่สลับกันไปครับ ผ่านไร่มันสัมปะหลัง ไร่อ้อย ของเช้าบ้าน ระหว่างที่ขับรถเดินทางเข้าไปยังอ่างเก็บน้ำอยู่นั้นก็ได้เวลาที่พระอาทิตย์ตื่นขึ้นมาส่องแสงพอดี เราจึงจอดรถระหว่างทางเพื่อเก็บภาพแสงแรงของวันใหม่
เป็นครั้งแรกที่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นกลางไร่มันสัมปะหลัง จริงๆแล้วมันก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งนะครับ พอได้ภาพพระอาทิตย์ยามเช้ากันแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อครับ
จากป้ายบอกทางอันใหญ่ก็เปลี่ยนเป็นป้ายที่เล็กลงดูแล้วน่าจะเป็นป้ายที่ชาวบ้านในชุมชนทำกันขึ้นเอง จากป้ายนี้ไปเราก็เข้าเขตป่าชุมชนกันแล้ว
พอเข้าเขตป่าเท่านั้นแหละเราก็สัมผัสได้ถึงความสดชื่นจากธรรมชาติ ลมพัดเอื่อยๆ เสียงนกร้อง เห็นวิถีชาวบ้านที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำไร่ ทำนากัน หลังจากเราขับรถออกมาจากบ้านเราประมาณ 45 นาทีเห็นจะได้ เราก็มาถึงทางเข้า "อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง" กันแล้ว
"เวลา 06:12 น." เราเดินทางมาถึงทางเข้าของอ่างเก็บน้ำกันแล้ว เราก็หยุดรถเพื่อชำระเงินค่าผ่านทางกันก่อนสนนราคา 20 บาทต่อรถ 1 คันซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากครับ
ที่อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงนี้ชาวบ้านในชุมชนจะเป็นคนดูแลกันเองครับ โดยการสลับหมุนเวียนกันไปตามแต่ละหน้าที่ หลังจากชำระเงินค่าเข้าเรียบร้อยแล้วเราขับรถตรงเข้ามาอีกนิดเดียวก็ถึง "อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง" กันแล้ว หาที่จอดรถและเตรียมตัวออกไปสัมผัสบรรยากาศด้านนอกกันดีกว่าครับ พอลงมาก็จะเจอร้านค้าชุมชนครับ
ที่นี่มีเป็นร้านค้าแห่งเดียวที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวและเป็นที่เดียวที่มีไฟฟ้าที่ได้จากโซลาเซลใช้ เพราะที่นี่อยู่ใจกลางหุบเขาไฟฟ้าเลยมาไม่ถึง ฉะนั้นถ้านักท่องเที่ยวท่านใดสนใจจะไปพักผ่อนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะครับ เพราะนอกจากไฟฟ้าจะไม่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวแล้วสัญญาณโทรศัพท์ก็ยังไม่มีอีกด้วย รวมถึงกฏกติกาในการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดพอสมควร แต่สำหรับผมแล้วมันช่างเหมาะแก่การพักผ่อนเสียจริงๆ
นี่เลยครับกฏระเบียบในการมาพักผ่อนที่นี่ ลองเอาไปอ่านและลองคิดดูว่าเราสามารถปฏิบัติตามนี้ได้ไหม อ่านกันไปก่อนนะครับผมขอตัวไปเดินถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆอ่างเก็บน้ำกันดีกว่าครับ...อ้าว 1 2 3 แคปเจอร์ !!!!!
ในวันที่เราเดินทางไปกันนั้นเป็นวันธรรมดา ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่มีนักท่องเที่ยวมากันหรอก แต่ที่ไหนได้เราได้เห็นนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนที่นี่จำนวนหลายคนพอสมควร เราเริ่มเดินไปสำรวจบริเวณแพนอนกันครับเผื่อวันหนึ่งได้มีโอกาสมานอนกับเขาบ้าง
สำหรับอันนี้เป็นแพนอนสำหรับ 2 คน ที่เห็นๆอยู่มีประมาณ 5-6 หลัง ส่วนเรื่องราคาถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่คนละ 300-400 บาท นอกจากนี้ยังมีแพใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอ่างเก็บน้ำด้วยอันนั้นสามารถนอนได้หลายคนครับ
นี่เป็นรูปแพใหญ่ที่ผมกล่าวถึงเมื่อตะกี้นี่ไงละครับ หรือว่านักท่องเที่ยวท่านใดสนใจกางเต็นท์ก็มีให้บริการเช่นกัน มีทั้งให้เช่าหรือนำมาเองก็ได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำไว้ให้บริการแก่นักเที่ยวที่มายังที่นี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นน้ำ พายเรือคายัค ห่วงยาง ปั่นแพถีบ
เราใช้เวลาเพลิดเพลินในการถ่ายภาพและสัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงกันสักชั่วครู่หนึ่ง เราก็เดินทางกลับออกจากอ่างเก็บน้ำเพื่อเดินทางกลับบ้านกันครับ ถือว่าเป็นการปิดทริปสั้นๆที่ผมได้ออกเดินทางซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆครับ
สิ่งที่ควรรู้ในการไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
- เวลาเปิดและปิด 06:00 - 18:00 น.
- คนที่ไม่นอนค้างคืนต้องออกก่อน 18:00 น.
- อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงจะปิดเพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นตัวตั้งแต่ 1 เมษายน - 11 สิงหาคม ของทุกปี
- ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป
- ห้ามประกอบอาหารเอง
- ปราศจากไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์
สุดท้ายนี้สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ อำเภอด่านช้างเป็นอีกอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น เขื่อน อ่างเก็บน้ำ อุทยานแห่งชาติ และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมสนใจมากอย่างหนึ่งก็คือ การขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณในที่อื่นรวมถึงที่วัดทับผึ้งน้อย หลักฐานมนุษย์หินยุคใหม่ วัตถุโบราณต่างๆ ที่ขุดพบตามไร่นา บนยอดภูเขา ในถ้ำ และหลักฐานอื่นตั้งแต่ยุคหินใหม่ สมัยยุคทวารวาดี มันยิ่งทำให้ผมสนใจและสัญญาว่าจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้งแน่นอนครับและเจอกันทริปต่อไปนะครับ
^_^ สวัสดีครับ ^_^